รีวิว: Tri-Shawa Resort ตรีชวา รีสอร์ท – Pool Suite

Tri-Shawa Resort ตรีชวา รีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นรีสอร์ทที่อยู่ติดชายหาด เงียบสงบ อาหารอร่อย และมีการบริการที่ดีเยี่ยม กิจกรรมที่นิยม คือ การมาขี่จักรยาน

สำหรับห้องพักที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกของตรีชวา รีสอร์ท มีทั้งหมด 27 ห้อง แบ่งเป็น 3 แบบ ให้เลือกพักผ่อนตามไลฟ์สไตล์  ได้แก่ Pool Suite, Garden Villa และ Superior

เราและตูนออกเดินทางจากสมุทรปราการในวันที่ 24 สิงหาคม เวลาประมาณ 16.00 น. ไปยังตำบลคลองวาฬ หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ตำบลคลองวาฬ อยู่ที่ไหน ตำบลคลองวาฬจะอยู่เลยกุยบุรีมาค่ะ เส้นทางจะเป็น ชะอำ – หัวหิน – ปราณบุรี – กุยบุรี – คลองวาฬ

เดินทางไปถึง Tri-Shawa Resort เวลา 19.45 น. ได้เวลาทานข้าวเย็นพอดี ทาง Front Office น่ารักมาก โทรมาถามเราด้วยว่าถึงหรือยัง เพราะกลัวเราจะหลง เนื่องจากตอนบ่ายเราโทรไปแจ้งว่าเราจะเช็คอินตอนเย็น เพราะว่ารอเลิกงานแล้วจึงเดินทาง

ที่จอดรถด้านหน้าของโรงแรมเต็มแล้ว เราเลยตามพนักงานโรงแรมไปจอดที่ คลับปลาวาฬ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมไป 400 เมตร แล้วก็นั่งรถของโรงแรมกลับมา พอเช็คอินเสร็จแล้ว เราก็รีบไปที่ มองดูเลย์ (Monct-Du-Lay) ร้านอาหารของโรงแรม เพื่อทานข้าว

อาหารที่ Tri-Shawa Resort อร่อยมาก รสชาติดีเลย ราคาพอประมาณ ที่พิเศษคือ เมื่อมาถึงคลองวาฬ ต้องทานปลานวลจันทร์ทะเล เพราะปลานวลจันทร์ทะเล เป็นปลาตามโครงการในพระราชดำริของในหลวง โดยมีพระราชดำริให้เพาะพันธุ์ ณ กรมประมงคลองวาฬเป็นที่แรก

หอยตลับผัดซอสโหระพา 180 บาท น้ำพริกกุ้งกรอบ 150 บาท ลาบทอดปลานวลจันทร์ทะเล 180 บาท รวมเครื่องดื่ม และ service charge ออกมา 693 บาท ทานเสร็จแล้วก็เดินไปดูทะเลตอนกลางคืน บรรยากาศสบายๆ เงียบสงบ

เราพักห้องแบบ Pool Suite ซึ่งมีขนาด 55 ตรม. อยู่ในตำแหน่งที่สวยที่สุดของรีสอร์ท สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากห้องพัก บริเวณด้านนอกห้อง มีสระว่ายน้ำขนาดเล็กส่วนตัว และระเบียงกระจกที่เปิดรับวิวทะเลได้อย่างเต็มที่

เช้าแล้วมาทานข้าวกันค่ะ เราลงไปทานตอนเวลา 9 โมง

ผู้มาพักจะได้รับคูปองทานอาหารเช้าเมื่อตอนเช็คอิน เมื่อจะเข้าห้องอาหารมองดูเลย์ ก็ยื่นให้พนักงาน อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์

มีมุมแซนวิชให้ได้ทานด้วย นอกจากนี้ก็มีข้าวผัด ข้าวต้ม ผลไม้ สลัด ซีเรียลต่างๆ และก็โยเกิร์ต ชา กาแฟ

วันที่เราไปพัก ก็มีผู้มาพักท่านอื่นๆ บ้าง ทุกคนล้วนแต่แต่งตัวมาเพื่อขี่จักรยาน น่าสนุกจริงๆ

เราและตูน คิดกันว่าทานข้าวเสร็จแล้ว จะขับรถไปที่วัดอ่าวน้อย เพราะเราคงปั่นจักรยานไปกันไม่ไหว เพราะระยะทางถึง 20 กิโลเมตร (แต่สำหรับนักปั่นจักรยาน คงจะจิ๊บๆ)

ทานอาหารเสร็จแล้ว ก็เดินเล่น อากาศดูเหมือนจะมีฝน

เราถามพนักงานถึงการไปดำน้ำ ทางพนักงานบอกว่าเนื่องจากอากาศดูจะไม่แจ่มใส การไปดำน้ำเลยเป็นช่วงเช้า และเสร็จสิ้นประมาณ 9 โมง

ซึ่งเรากับตูน จะตื่นเช้าขนาดนั้นไหมในวันพรุ่งนี้ อิอิ ไม่แน่ใจ

ขับผ่านอ่าวประจวบมาเรื่อยๆ ฝนเริ่มจะปรอยๆ พอมาถึงวัดอ่าวน้อย อากาศก็ไม่ดีซะแล้ว เลยไม่ได้ขึ้นไปที่ถ้ำพระนอน

วัดอ่าวน้อย ตั้งอยู่ตำบลอ่าวน้อย เชิงเขาบริเวณอ่าวน้อย ก่อนถึงตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ ในวัดมีโบสถ์ไม้สักทองทั้งหลัง ลวดลายไทย ที่แกะสลักอย่างละเอียดปราณีต ภายในโบสถ์ ประดิษฐานพระพุทธรูป มีงานจิตกรรมรอบผนังโบสถ์ที่เกี่ยวกับพระพุทธศานาที่มีความสวยงามน่าประทับใจ รอบๆบริเวณวัดล้วนเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เพื่อความสงบร่มรื่น

เราจึงมาที่สะพานปลาหน้าอ่าวประจวบ ทางจังหวัดได้ใช้งบประมาณกว่า 2.4 ล้านบาท ปรับปรุงและก่อสร้าง เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามโครงการสะพานวัฒนธรรม เมืองสามอ่าว

พร้อมทั้งทำหนังสือกราบบังคมทูล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขอพระราชทานชื่อสะพานปลา ท่านพระราชทานชื่อสะพานปลาดังกล่าวว่า “สราญวิถี” ในโอกาสฉลองพระชมมายุ 5 รอบ มีความหมายว่า “สะพานแห่งความสุขสำราญ” และพระราชทานพระราชานุญาต ให้เชิญตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ประทับที่ป้ายชื่อด้วย

อากาศไม่ค่อยดี เลยกลับมาที่ตรีชวา เพื่อทานข้าวก่อน ซึ่งทำให้อิ่มไปจนเย็นเลย เยอะมาก ทานไป 2,002 บาท

ทะเลกัมปนาท (ภาพบน) อาหารทะเลสดๆ ปรุงแต่งสไตล์บาบีคิว เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้านมองดูเลย์ ซึ่งมีให้เลือกจิ้มตามใจกันถึง 4 แบบ

อาหารที่ มองดูเลย์ อร่อยทุกอย่างจริงๆ

เนื้อปลาเน้นๆ และสำหรับคนชอบทานไก่ต้องลอง ไก่กอและ ไม่ต้องไปไกลถึงปัตตานี

ยังไม่พอ เรายังกินของหวานต่อ

ทานอิ่มแล้วเราก็มาดูเส้นทางจักรยานกันดีกว่า ซึ่งทางโรงแรมมีจัดเตรียมไว้ให้เป็นแผ่นพับ ถ้าใครอยากดูตอนนี้ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของโรงแรม www.tri-shawa.com

ส่วนแผนที่ด้านล่างนี้ เราทำเอง อ้างอิงจาก Google Maps จะได้มองเห็นสถานที่ต่างๆ ได้ชัดเจน

นอกจากนี้เรายังมีแผนที่ ที่พี่ปุ๋ย เจ้าของร้านกาแฟ ดาหลา มอบให้อีกด้วย ทำให้สะดวกมากมาย ว่าจะไปไหนก่อนดี (ภาพด้านล่าง ลายมือพี่ปุ๋ย)

โดยปกติถ้าเราได้ขี่จักรยานเป็นประจำอยู่แล้ว เส้นทางที่นิยมขี่ไปกันคือ ขี่บนถนนเลียบอ่าวไปเรื่อยๆ จนถึงวัดอ่าวน้อย (เบอร์ 1 ในภาพ) เราจะได้ชมโบสถ์ไม้สักทั้งหลัง และเที่ยวถ้ำพระนอนที่เป็นที่เคารพของชาวประมงท้องถิ่นมาช้านาน

จากนั้นก็มาเที่ยวที่เขาช่องกระจก (เบอร์ 2)  ขึ้นบันได 396 ขั้น พิชิตยอดเขาช่องกระจก สักการะพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาท ให้อาหารลิงบนยอดเขา

หลังจากที่เหนื่อยๆ เดินขึ้นเขาช่องกระจก พอขี่จักรยานมาเรื่อยๆ เข้าสู่ตัวเมืองประจวบ มาจนถึงถนนสู้ศึก เป็นถนนเก่าแก่ของเมืองประจวบคีรีขันธ์ สามารถชมวิถีชีวิต ร้านค้าโบราณ และแวะซื้ออาหารทะเลสดๆ กลับบ้าน

ที่ถนนสู้ศึก เราจะพบร้านกาแฟฮาจิอยู่ เปิดบริการ 9.00 น. ถึง 19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์) ร้านกาแฟสำหรับผู้ชื่นชอบจักรยาน มีจักรยาน vintage เยอะแยะเลย

คุณหน่อย เจ้าของร้าน น้องท่าพระจันทร์เก่าแก่ที่ชาวธรรมศาสตร์ และชาวศิลปากรรู้จักกันดี ได้ทำการย้ายมาเปิดที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง Hachi แปลว่า 8 ในภาษาญี่ปุ่น ร้านนี้อยู่ถนนสู้ศึก ซอย 8 ดังนั้นเราคิดว่าทางเจ้าของร้านน่าจะตั้งชื่อตามเลขซอยแน่ๆ

เมื่อเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านต้อนรับเป็นอย่างดี ยิ้มแย้มแจ่มใส น่ารักมาก กาแฟก็อร่อยมากด้วย

จากนั้นเราจะเข้าสู่เขตฐานทัพอากาศ กองบิน 53 (เบอร์ 4) ในเขตนี้จะมีเขาล้อมหมวก (เบอร์ 5) ตั้งอยู่ เราจะได้พบค่างแว่น ที่มีนิสัยเชื่อง ไม่ดุร้าย ตอนเล็กๆ มีขนสีเหลืองทอง สามารถถ่ายรูปได้

น้องพิงค์ นักเขียนของ Coconuts Krungthep ใจดีมอบภาพค่างแว่นน่ารักๆ ให้มาประกอบบทความนี้

เสียดายวันที่เราไป พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5 ปิด ก็เลยไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชม

จากนั้นขี่จักรยานมาเรื่อยๆ ใกล้ตรีชวา ก็จะพบตลาดสด และร้านฟ้าทะลายโจร (เบอร์ 6) ขี่จักรยานเป็นกิโลขนาดนี้ เหนื่อยมากก็ควรจะเล่นน้ำที่ห้องได้แล้ว

ในตอนเช้าหลับสบาย ไม่ตื่นไปดำน้ำเลย แต่ไม่เป็นไร ไว้โอกาสหน้า คงจะได้ไปดำน้ำกัน

เช้าวันนี้เลือกทาน Hawaiian Sandwich

หลังจากเช็คเอาท์แล้ว เราจะไปที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ กัน

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดตั้งตามแผนหลักของโครงการ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล ธรรมชาติวิทยา และสิ่งแวดล้อม

เสียดาย (อีกแล้ว) วันที่เราไปทางพิพิธภัณฑ์มีการปรับปรุงสถานที่ ทำให้เดินดูได้ในบางส่วน

เราหวังว่าวันหนึ่ง เมื่อประเทศไทยเจริญ นักการเมืองโกงกินกันน้อยลง เราจะมีเงินมาพัฒนาพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของเรา ให้สวยงามแบบพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง หรือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซากา ไคยูคัง  เพราะเรามีสัตว์ทะเลมากมาย อยู่ในอ่าวที่สวยงามด้วย

Wahkor Aquarium

A video posted by Juth Vadhanapanich (@juthjay) on Aug 26, 2015 at 5:19am PDT

เนื่องจากปิดปรับปรุง เลยมาเดินเล่นรอบๆ อควาเรียมกัน

ก่อนกลับบ้าน แวะซื้อกาแฟ ตรงอ่าวมะนาว พูดถึงอ่าวมะนาว ว่ากันว่าเป็นอ่าวที่สวยที่สุดในเมืองประจวบ ในอดีตเคยเป็นที่ยกพลขึ้นบกของทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของทหารอากาศ และกองบิน 53 หาดจึงได้ดูสะอาด เป็นระเบียบมาก

ชาเย็นร้านนี้อร่อยมาก

จบแล้วการพักผ่อนครั้งนี้ สบายๆ สนุกสนาน อิ่มอ้วน ใครที่อยากมาพักผ่อนแบบสงบเงียบ ในตำบลคลองวาฬ แนะนำเลยค่ะ ถึงจะขี่จักรยานได้ไม่เก่ง ก็สามารถขี่เลียบอ่าวได้ใกล้ๆ ไม่ต้องหักโหม ลองดูๆ

ติดต่อตรีชวา รีสอร์ท ได้ที่แฟนเพจ facebook.com/trishawaresort หรือ 085-240-4029, 032-662-037 Email: sales.tri-shawa@gmail.com

The photographs may not be copied, reproduced, redistributed, manipulated, projected, used or altered in any way without the prior express written permission of Juth.Net

แผนที่ร้านกาแฟฮาจิ

Comments

comments